วันที่ 21 ธันวาคม 2566 เกิดเหตุสลดรถแทรกเตอร์ทับคนเสียชีวิต ที่บ้านโคกเพ็ก ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจาก พ.ต.ท.ไชยา แก้วยก สารวัตรเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ แพทย์เวร โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลชุมเห็ด
เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุพบรถแทรกเตอร์สีเขียว จอดอยู่บริเวณลานดินในหมู่บ้านโคกเพ็ก บริเวณท้ายรถพบร่าง นายศิริชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี สภาพถูกโรตารี่ปั่นดินของรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวปั่นทับร่างจนคอหักเสียชีวิตติดคาอยู่กับโรตารี่ปั่นดิน
จากการสอบถาม ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี น้องชายของผู้ตาย กล่าวว่า พี่ชายมีอาชีพรับจ้างขับรถไถและรถการเกษตรให้กับเถ้าแก่ในหมู่บ้าน ช่วงเช้าวันนี้ได้มาเตรียมรถแทรกเตอร์เพื่อจะไปไถปั่นดินที่ไร่อ้อยให้กับเถ้าแก่ ซึ่งวันนี้ตนไม่ได้ไปเรียนจึงมาช่วยพี่ชายด้วย
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า ขณะที่พี่ชายติดเครื่องรถแทรกเตอร์กำลังจะใส่โรตารี่ปั่นดิน จู่ ๆ รถแทรกเตอร์เกิดไหลถอยหลังทำให้โรตารี่ปั่นดินหมุนปั่นทับพี่ชาย ตอนนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก พยายามจะเข้าไปช่วยพี่ชายแต่ช่วยไม่ได้ จึงตะโกนให้คนช่วยก็มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวิ่งเข้าดู พยายามจะช่วยแต่พี่ชายก็ถูกทับจนเสียชีวิตแล้ว
ส่วน น.ส.สุภาวิณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พี่สาวของผู้ตาย เดินทางมาถึงร่ำไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกล่าวว่า ปกติจะไม่ให้น้องชายขับรถแบบนี้เพราะไม่มีความชำนาญ แต่น้องชายพยายามมาคุยให้ฟังเสมอว่าขับรถแบบนั้นแบบนี้เป็นหมด เพราะดูมาจากยูทูบ พยายามห้ามหลายครั้งแล้วแต่น้องชายไม่ฟัง เช่นเดียวกับเหตุในครั้งนี้น้องชายก็แอบมาขับ แล้วใครจะมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน นายกัมชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เถ้าแก่ซึ่งเป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์คันดังกล่าว กล่าวว่า นายศิริชัยมารับจ้างขับรถไถและรถแทรกเตอร์ให้กับตนได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเขาก็จะเปลี่ยนโรตารี่ปั่นดิน ผานไถเองได้ก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไร
นายกัมชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งวันนี้นายศิริชัยก็ออกมาเตรียมรถแทรกเตอร์เพื่อจะไปไถปั่นดินเตรียมปลูกอ้อยที่บ้านขี้ตุ๋น ต.ชุมเห็ด เนื้อที่ประมาณ 36 ไร่ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น มารู้อีกทีก็ตอนที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์ไปแจ้ง ก็ตกใจมากและรีบเดินทางมาดู ซึ่งนายศิริชัยเป็นคนขยันมาก ก็เสียใจที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ นายบุญเลิศ (ขอสงวนนามสกุล) ตาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลานเป็นคนขยันรับจ้างขับรถไถ และรถที่ใช้ในการเกษตรมาหลายปีแล้ว ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาถูกทับเสียชีวิตแบบนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งต้นปีหน้าหลานก็ตั้งใจจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ แต่ก็มาเกิดเหตุสลดเสียชีวิตก่อน ทางครอบครัวก็เสียใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสอบถามญาติและคนเห็นเหตุการณ์ ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากตรวจชันสูตรเสร็จก็จะมอบร่างให้ญาติกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป