วันที่ 17 ธ.ค.2566 ได้รับการร้องเรียนจากน.ส.รุ่งรัตน์ อายุ 42 ปี ครูสอนชั้น ป.5 อยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ว่าตนเองพร้อมนางวัฒนา อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นแม่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ พ.ต.ต.ดิเรก เอี่ยมเล่ สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยคต ว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 มีด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ม.2 ซึ่งมีบ้านติดกัน ฉวยโอกาสตอนที่ตนเลี้ยงลูกอยู่หน้าบ้าน เข้ามาลักเงินในห้องนอนซึ่งเก็บไว้อยู่ในโต๊ะ จำนวน 7 แสนบาทไป แล้วไปแบ่งให้กับพรรคพวกนักเรียนด้วยกัน
น.ส.รุ่งรัตน์ เปิดเผยว่าตนเองได้พักอาศัยอยู่กับแม่ พร้อมบุตร และหลานจำนวน 6 คน ได้เปิดเป็นร้านขายของชำ อยู่ริมถนนสายบ้านบ่อทราย – บ้านคลองหวาย ซึ่งก่อนหน้านั้นครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2566 เวลาประมาณ 10.00น. แม่ของตนอยู่บ้านคนเดี่ยว นั่งเลี้ยงเด็กอยู่บนแคร่
โดยได้เดินไปหลังบ้าน หลังจากนั้นได้มีด.ญ.เอซึ่งมีบ้านอยู่ติดกันได้เดินลัดข้างบ้านเขามาทำท่าจะซื้อของ แต่เดินตรงไปยังกระติกใสเงิน หลังจากนั้นได้ฉวยโอกาส หยิบเงินไปจำนวน 2 พันบาท โดยแม่ของตนมองเห็น และได้ว่ากล่าวกับด.ญ. ให้วางเงินไว้ที่เดิม โดยที่ทางแม่ของตน ไม่เอาเรื่อง
ต่อมาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 เวลา 19.00น. ตนได้รู้จากเพื่อนบ้านว่า ด.ญ.เอมีเงินใช้จ่ายแบบสะพัด ใช้เงินแบงก์พันไปซื่อสิ่งของเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน ให้กลับกลุ่มเพื่อนๆ นักเรียนด้วยกัน ซึ่งหลานชายตนเองได้เรียนอยู่ที่เดี่ยวกันกลับมาบ้าน ก็มาเล่าให้ฟังเช่นกัน
ด้วยความเอะใจ จึงเข้าไปดูเงินที่เก็บไว้ใต้โต๊ะ ซึ่งเป็นเงินที่ตนกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครู มาจำนวน 5 แสน กู้มาเพื่อจะปรับปรุงบ้าน พร้อมกับเงินแม่อีก 2 แสน รวมเป็นเงิน 7 แสน ทีใส่กระเป๋าไว้ในตู้ เงินทั้งหมดได้หายไปหมด จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายดังกล่าว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำด.ญ.เอ มาสอบถาม และให้การรับสารภาพว่าได้เข้าไปลักเงินจำนวน 7 แสน ที่บ้านหลังดังกล่าวจริง โดยได้นำเงินไปให้นายนิวส์ ซึ่งเป็นแฟน จำนวน 7 แสน แต่นายนิวส์ ให้การปฏิเสธ ว่าได้แบ่งมาให้แค่ 3 แสน อีก 3 แสนแบ่งให้นายบอล หลังจากนั้นกลุ่มเด็กดังกล่าว ได้พากันไปเที่ยวที่โลตัส อ.หนองฉาง ได้ซื้อโทรศัพท์ไอโฟนจำนวน 11 เครื่อง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต ได้ไปติดตามโทรศัพท์ไอโฟนได้คืนมาทั้งหมด 11 เครื่อง โดยให้เจ้าของร้านมารับซื้อคืน เพื่อนำเงินส่งคืนเจ้าของ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเงินมาคืนให้กับตนเองจำนวน 1แสน 2 หมื่น โดยได้โอนมาน้องชายส่วนทีเหลือเงินอีก 5 แสน 8 หมื่น ยังไม่ได้คืน ซึ่งตนเองได้ติดตามสอบถามกับ พนักงานสอบสวน มาตลอด แต่ก็ได้รับคำตอบจาก พนักงานสอบสวน ว่าในส่วนที่จะไกลเกลี่ย กับผู้ปกครองนั้น ต้องให้ตนเองไปจ้างทนายความมาฟ้องร้องเอา
ในส่วนคดีได้เรียกเด็กหญิงมาสอบปากคำ ให้การรับสารภาพ พร้อมกับมีซัดทอดไปยังบุคคลอื่น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อำนาจในการเรียกผู้ปกครองมาสอบสวน ดังกล่าวตนเองจึงวอนให้สื่อมวลชน ช่วยติดตามดังกล่าว เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ส่วนผู้ปกครองหน้าจะออกมารับผิดชอบกับลูกหลานของตนเองที่กระทำความผิดดังกล่าว