กลายเป็นคดีวุ่นวายและโด่งดัง ทำให้หลายคนแจ้งเกิด ทั้งที่มีเด็กอายุเพียง 3 ขวบ เสียชีวิต อย่างเป็นปริศนาอย่างโดดเดี่ยวบนภูเขา จนที่สุดศาลชั้นต้นได้ตัดสิน นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล รวม 20 ปี โดยกรณีความผิด 2 ฐาน
ล่าสุดนายไชย์พล กล่าวว่า สำหรับประเด็นเส้นผมของน้องชมพู่ที่เจอในรถของตนนั้น พนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ขึ้นไปตรวจสอบรถของตนก่อนที่จะใส่ชุด PPE อีก ตนก็สงสัยว่าเส้นผมมาตกที่รถของลุงได้ยังไง แต่หากเส้นผมที่ได้ไป เป็นเส้นผมของน้องชมพู่ เราก็พยายามจะพูดกับทีมงานทนายว่า รถของลุงไม่เคยล้างเลยและน้องชมพู่ก็ขึ้นรถของลุงตลอด และยังมีรถของคนอื่นที่น้องชมพู่ขึ้นด้วย ซึ่งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจแต่รถของลุง จึงมองว่าไม่ยุติธรรมสำหรับลุงหรือเปล่า เพราะถ้าหากตรวจทุกคันเส้นผมของน้องชมพู่ อาจจะตกอยู่ในรถทุกคันที่น้องขึ้นก็ได้ เราต่อสู้เรื่องเส้นผมมาตลอด
วันแรกที่ชาวบ้านขึ้นเขาเหล็กไฟ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ นอกจากยายตุ่นกับสา ซึ่งเป็นสามี พี่เห็นรองเท้าทุกคนก็ขึ้นเขาไปพร้อมกัน เป็นวันแรกที่ทุกคนขึ้นไปถึงจุดนั้น
ด้านป้าแต๋น กล่าวว่า มีหลายอย่างที่อยู่ในใจและตื้นตันใจ ด้วยความที่เราเห็นยูทูบเบอร์ ก็ทำให้เราคิดว่าถ้าหากเราเป็นอะไรไป เขาจะมีรายได้อะไรไหม และแอดมินที่เราจ้างมาทำงาน เขาจะเป็นยังไง ซึ่งป้าผ่านตรงนั้นมาแล้ว เหลือลุงที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง เราย้ายที่จากตรงนู้นมาอยู่ตรงนี้ก็ถูกทอดทิ้ง เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าสื่อจะออกไปแนวไหน มันเป็นการทำงานของสื่อ แต่คนดูก็ต่างความคิดเห็น แฟนคลับก็เป็นห่วง
ป้าเป็นคนเดียวที่รู้ทุกอย่างว่าลุงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้เมื่อวานป้าจะถูกยกฟ้องแล้ว ลุงก็ควรยกฟ้องไปพร้อมกับป้าถึงจะถูก และป้าจะไม่ทิ้งลุงไปไหนพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน หลายคนบอกว่าเราอวยผัวหรือเปล่า แต่ป้าจะบอกว่าลุงพลดีกว่าเจ้าหน้าที่หลายคนเลยด้วยซ้ำ