เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ความคืบหน้าล่าสุด ว่า นางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง น.ส นฤมล พงศ์สุภาพพงศ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาว อัญชลี มีพรเจริญกิจคลัง จังหวัดอ่างทองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะหัน ได้พบกับ นายมณฑล เพ็ชรสังข์ ชายพิการ หนุ่มพิการโยกรถสามล้อ บริเวณริมถนนสายเอเชียหลักกิโลเมตรที่ 37 + 600 ตำบล.ตานิ่มอำเภอ.บางปะหันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากที่หายตัวไปเมื่อช่วงเวลา 23.00 น. ที่สภ. ไชโย จนเจ้าหน้าที่ออกตามหาจนพบ
สอบถาม นายมณฑล กล่าวว่า จุดประสงค์ของตนเองต้องการจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อไปพูดคุยด้วยตนเอง ที่กรมบัญชีกลางในกรุงเทพมหานคร โดยไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะความตั้งใจ อยากจะไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวงถึงปัญหาของระบบการทำงานของราชการ และที่มีข่าวว่าตนเองนั้นหนีคดีมาไม่จริงตนเองไม่ได้หนี
นางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า หลังจากพูดคุยและติดต่อกับทางมารดา ของนายมณฑล เพื่อให้พูดคุยแต่นายมณฑลไม่พูดคุย กับมารดาและขอยืนยันจะเข้ากรุงเทพฯอย่างเดียว ส่วนเรื่องที่นายมณฑลได้พูดถึงนั้นตอนนี้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบรายชื่อทะเบียนบ้านแล้วพบว่านายมณฑลมีทะเบียนบ้านอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง เพราะได้สอบถามทางแม่ของนายมณฑล ส่วนเรื่องเงินเบี้ยพิการก็จะดูแลและตรวจสอบให้ และยืนยันจะให้ความ ช่วยเหลือ
นางวาสนา กล่าวว่า หลังจากพูดคุยทางนาย มณฑล ไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและยืนยันจะโยกรถสามล้อไปเองโดยพูดว่าถ้าเจ้าหน้าที่ยุ่งจะให้รถพุ่งชน หลังจากนั้นก็โยกรถมาตามถนนสายเอเชีย โดยยืนยันคำเดียวถ้ามีหน่วยงานหรือผู้สื่อข่าวยุ่งก็จะให้รถชน และไม่ขอคุยกับใครทั้งนั้นในตอนนี้
ต่อมา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายชัชชัย กิตติไชย หรือ ชัช ตลาด ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ นายมณฑล ใช้เวลา 20 นาทีนายมณฑล พูดคุย แต่ไม่ยอมที่จะให้ทางหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือและยืนยันจะเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯเองโดยห้ามให้ทุกคนตาม
นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากได้รับรายงานก็เดินทางมาพบกับนายมณฑล และพูดคุยจากการทราบเรื่องทราบว่านายมณฑลนั้น ตั้งใจจะเดินทางไปบอกกับผู้ใหญ่ด้วยตนเองเรื่องที่ว่าไม่ได้รับเงินเบี้ยพิการ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากตนเองถูกคัดชื่อทะเบียนบ้านออกมาอยู่ทะเบียนกลาง
และมีเรื่องบางเรื่องที่อึดอัดใจอยากจะไประบายให้กับผู้ใหญ่ฟังโดยตรงด้วยตนเองทางหน่วยงานในพื้นที่ก็มาพูดคุยเจรจาแต่ไม่ เป็นผล และยืนยันว่าจะโยกสามล้อเข้ากรุงเทพฯตนจึงได้ให้ทางหน่วยงานในพื้นที่ประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบที่นายมณฑล ยอดสามล้อผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องความปลอดภัย
นายมณฑล ยังตำหนิผู้สื่อข่าวที่บอกว่าตนเองจะเข้าไปร้องเรียนหลังจากที่เป็นข่าวนั้นตนเองบอกว่าไม่ได้ร้องเรียนแค่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่เท่านั้นแต่ทำไมข่าวถึงออกไปแบบนั้น