วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุมีเด็กถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
เมื่อไปตรวจสอบโดยเหตุเกิดที่ชั้น 2 ของบ้าน พบศพเด็กชายบี (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ เรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอรัษฎา สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว1 นัด จากบริเวณท้ายทอย ทำใให้เสียชีวิตทันที โดยคนก่อเหตุคือ ด.ช เอ (นามสมุติ) อายุ 12 ปี เป็นพี่ชายของผู้ตาย เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนเดียวกัน โดยพี่ชายที่ก่อเหตุนั้นเป็นเด็กพิเศษ
ช่วงเกิดเหตุเป็นตอนเช้าพ่อกับแม่ออกไปเก็บน้ำยางที่กรีดไว้ จึงอยู่กัน 2 คนพี่น้อง ทั้งนี้อาวุธปืนลูกซองยาวถูกเก็บเอาไว้ในห้องชั้นสองของบ้าน ซึ่งเดิมจะมีกุญแจปิดห้องไว้ แต่ในวันนี้บ้านซึ่งเป็นสองชั้น โดยชั้นหนึ่งกุญแจเสีย พ่อจึงถอดเอากุญแจที่ปิดห้องเก็บปืนไว้ มาใช้ปิดประตูบ้านชั้นล่าง จึงทำให้ห้องที่เก็บอาวุธปืนไว้นั้นไม่มีกุญแจล็อก และช่วงเกิดเหตุสองพี่น้องอยู่กันลำพัง พี่ชายจึงเข้าไปหยิบอาวุธปืนออกมา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความไร้เดียงสา จึงนำอาวุธปืนออกมาส่องไปที่ท้ายทอยของน้องแล้ว กดไกปืน จึงทำให้ปืนลั่นกระสุนปืนเจาะเข้าที่ท้ายทอยน้องจนเสียชีวิตดังกล่าว
โดยศพของน้องบีทางครอบครัวได้ส่งไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่วนเด็กชายเอ ซึ่งเป็นพี่ชาย ซึ่งยังเป็นเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่และนำตัวไปที่สำนักงานอัยการเพื่อสอบปากคำร่วมกับนักจิตวิทยาและสหวิชาชีพ ซึ่งในเบื้องต้นไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆ
จากการสอบถามอาเด็ก บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงวิ่งลงมาจากบ้านแล้วก็พบเห็นหลานชาย คือเด็กชายเอวิ่งไปหาตน พร้อมกับตะโกนบอกว่า อาน้องบีตายเแล้ว ตนเองจึงวิ่งกลับไปที่บ้านเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือ แล้ววิ่งกลับมาที่บ้านเกิดเหตุ เมื่อขึ้นไปชั้นสองก็พบน้องบีหลานชายคนเล็กนอนหายใจรวยริน ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งพี่ชายให้ทราบและรีบกลับมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวทุกคนเสียใจมาก น้องบีแม้จะเป็นน้องชาย แต่ก็ยังช่วยดูแลพี่ชายซึ่งเป็นเด็กพิเศษ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เป็นพ่อเสียใจเป็นอย่างมาก ยังอยู่ในอาการที่ทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้
ทั้งนี้จากการสอบถามพ่อเด็ก บอกว่าตนเองกับภรรยาออกไปกรีดยางตอนตีหนึ่งและกรีดเสร็จในเวลาตีห้าจึงกลับมาถึงบ้าน และภรรยาก็ทำกับข้าวไว้ให้ลูกเพื่อที่จะได้กินไปลงก่อนไปโรงเรียนจากนั้น 06:00 น.ตนกับภรรยาจึงออกจากบ้านไปเก็บน้ำยางตามปกติ ซึ่งปกติแล้วเมื่อได้เวลาภรรยาก็จะกลับมารับลูกทั้งสองคนไปส่งที่โรงเรียน แล้วก็จะกลับมาเก็บน้ำยางต่อ แต่ในวันนี้ได้รับแจ้งจากน้องชาย จึงรีบกลับมาก็พบว่าน้องบีเสียชีวิตแล้วจากการถูกยิง ซึ่งปืนนั้นเป็นปืนของปู่ของพ่อ ซึ่งตกทอดเป็นมรดก ปกติเก็บไว้ในห้องชั้นสอง ก็จะมีกุญแจล็อก แต่ปรากฏว่ากุญแจบ้านชั้นล่างเสีย จึงถอดเอากุญแจในห้องชั้นบนมาล็อกกุญแจชั้นล่างเพื่อความปลอดภัยของลูก เพราะเวลาออกไปกรีดยางกลางดึกจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะที่ผ่านมาลูกชายคนโตก็ไม่เคยเข้าไปเล่นปืนหรือเข้าไปหยิบมาเล่น แล้วตนก็ตั้งใจจะไปซื้อมาใหม่อยู่แล้ว แต่ไม่ทันได้ซื้อก็มาเกิดเหตุซะก่อน เสียใจมากเพราะลูกชายคนเล็กเป็นความหวังของตนเอง เป็นแก้วตาดวงใจของตน มาให้ตนได้ชื่นใจเพียงแค่ 9 ปีเท่านั้นก็จากไปแล้ว
ซึ่งลางสังหรณ์ก่อนหน้านี้เมื่อตอนช่วงค่ำน้องคนเล็กที่เสียชีวิตนั้นรับประทานอาหารไปมาก จนบอกว่าตัวเองกินแน่นมาก แล้วลูกชายบอกว่าน้องจะกินข้าวให้มากๆเพื่อจะได้โตเร็วๆ จะได้ช่วยพ่อทำงาน ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนปกตินั้นจะอาบน้ำแต่งตัวก่อนกินข้าว แต่ในวันนี้ตอนประมาณ 6 โมงเมื่อแม่ทำกับข้าวเสร็จ ลูกชายคนเล็กก็บอกว่า พ่อวันนี้น้องขอกินข้าวก่อนน้องหิวแล้ว ค่อยอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน แล้วเขาก็กินข้าวก่อน สุดท้ายเขาก็มาจากไปทำให้ทุกคนทำใจไม่ได้