วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายธัชชัยฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 281 /2566 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น สถานที่จับกุม ริมถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตครูเกษียณอายุราชการ ได้ถูกคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหา โดยคนร้ายได้เเจ้งข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย (ชื่อ-นามสกุลจริง) พร้อมกับเเจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าผู้เสียหายมีพัสดุตกค้างอยู่ที่ไปรษณีย์ศรีราชา โดยมีชื่อผู้เสียหายเป็นผู้จัดส่งจากต้นทางไปรษณีย์ศรีราชา ไปยังผู้รับที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งภายในกล่องพัสดุดังกล่าวมีสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 เล่ม, บัตร ATM จำนวน 10 ใบ, หนังสือเดินทาง จำนวน 5 เล่ม และสิ่งของผิดกฎหมาย ด้วยความตกใจกลัวว่าตนเองจะเกี่ยวข้องกับสิ่งของผิดกฎหมาย ผู้เสียหายจึงร้องขอให้คนร้ายช่วยเหลือ
จากนั้นคนร้ายจึงต่อสายโทรศัพท์ให้ผู้เสียหายคุยกับกลุ่มคนร้ายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นร้อยเวรอยู่ที่ สภ.ศรีราชา พร้อมกับให้ผู้เสียหายติดต่อพูดคุยผ่านทางไลน์ที่ใช้ชื่อว่า สภ.ศรีราชา โดยคนร้ายได้แจ้งให้ ผู้เสียหายโอนเงินของผู้เสียหายไปให้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบที่มาของเงิน ซึ่งหากผู้เสียหายไม่มีความผิด ก็จะได้รับเงินคืน
ภายหลังผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินผ่านทางแอปพลิเคชันธนาคารจำนวน ๒ ครั้ง ไปยังบัญชีชื่อนายธัชชัยฯ รวมเป็นเงิน 7,000,000 บาท ตามที่คนร้ายแจ้งไว้ แต่ต่อมากลับไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มคนร้ายได้และไม่ได้รับเงินคืน จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายธัชชัยฯ เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่คนร้ายกลุ่มนี้ใช้ในการก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตาม หมายจับดังกล่าว
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายธัชชัยฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยกับแม่ยายซึ่งเปิดร้านขายสเต๊กอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อพบนายธัชชัยฯ จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองติดการพนันออนไลน์ และต้องการใช้หนี้พนัน ภายหลังเมื่อมีคนมาชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร และอ้างว่าจะได้ค่าจ้างบัญชีละ 2,000 บาท ตนจึงรับจ้างเปิดบัญชีไปจำนวนหลายบัญชีได้เงินมาประมาณ 10,000 บาท
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน